อุทยานแห่งชาติเขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสก มีฉายาว่า ขุนเขาแห่งป่าฝน ตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี มีพื้นที่รวมกันกว่า 463,131.43 ไร่ มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ เป็นพื้นที่ป่าดิบชื้น มีภูเขามากมายเรียงรายกันไปมาสลับน้อยใหญ่ ในเขตพื้นที่จะมีป่าไม้นานาพรรณมากมาย เช่น ต้นปาล์ม บัวผุด เป็นต้น รวมไปถึงสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก และในอุทยานเขาสกยังมีการสำรวจพบเจอสัตว์สงวนของไทยถึง 4 ชนิดด้วยกัน ซึ่งเป็นข่าวดีมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสกให้การดูแลรักษาผืนป่าเป็นอย่างดี โดยสัตว์สงวนที่พบเจอประกอบไปด้วย เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ รวมไปถึงแมวลายหินอ่อน นั่นเอง เราลองไปดูสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติกันบ้างว่ามีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง
วังยาว
วังยาวเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศ โดยจะมีน้ำตกและลำธารสวยงาม น้ำตกที่นิยมก็คือ น้ำตกบางหัวแรดและน้ำตกวิ่งหิน โดยลักษณะเด่นของน้ำตกทั้งสองก็คือจะไหลลงมาจากที่สูงแล้วมาบรรจบกันอย่างสวยงาม ประกอบกับบริเวณรอบๆ เป็นป่าไม้สวยงามอุดมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ คุณสามารถมาลงเล่นน้ำ นั่งเล่นรับประทานอาหารกันได้
ตั้งน้ำ
ลักษณะของตั้งน้ำเป็นพื้นที่ที่มีสายน้ำจากคลองสกไหลผ่าน บริเวณด้านบนจะเป็นหน้าผาหันหน้าไปทางตรงกันข้ามของกันและกัน โดยเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าเมื่อก่อนจะเป็นภูเจาแต่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผานั่นเอง
น้ำตกโตนกลอย
เป็นน้ำตกที่มีสายน้ำจากคลองสกลงมา บริเวณในพื้นที่มีป่าไม้ล้อมรอบให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก และมีลานหินให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนคลายความเหนื่อยล้า คุณสามารถลงเล่นน้ำหรือถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ได้ ต้องยกเลยว่าพื้นที่ของน้ำตกโตกลอยนั่นร่มรื่นเป็นอย่างมาก
น้ำตกโตนไทร
น้ำตกขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวนิยมนั่งพักผ่อนคลายความเมื่อยล้า เป็นส่วนหนึ่งของคลองสกเช่นเดียวกับน้ำตกโตนกลอย
น้ำตกธารสวรรค์
เหมือนได้อยู่บนสวรรค์จริงๆ เลยก็ว่าได้สำหรับน้ำตกธารสวรรค์ ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดๆ ในเขตอุทยานเขาสกเลย ในพื้นที่จะเป็นหน้าผาสูงและมีน้ำตกไหลลงมาในลักษณะพุ่งโค้งเหมือนรุ้งกินน้ำเลยล่ะ ในพื้นที่ก็มีดอกไม้ ต้นไม้ รวมถึงสัตว์ขนาดเล็ก
น้ำตกสิบเอ็ดชั้น
น้ำตกที่มีลักษณะหน้าผาเป็นขั้นบันได 11 ชั้น ไหลลงมาจากหน้าผาทีล่ะขั้นอย่างสวยงาม ด้านล่างจะเป็นลำธารเขียวมรกตสวยงาม เหมาะสำหรับลงไปนอนแช่น้ำ เล่นน้ำอย่างสบายใจ บริเวณรอบๆ มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ถ้าใครได้ไปอุทยานแห่งชาติเขาสกห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด
วิธีการเดินทางมาเขาสก
1) ไปตัวอุทยานแห่งชาติเขาสก ณ จังหวัดสุราษฎร์ฯ กันก่อนนิ!
– ไปรถยนต์ (ความสะดวก 5/5)
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงสุราษฎร์ธานี แล้ววิ่งเส้น 401(สายสุราษฎร์ฯ-ตะกั่วป่า) แยกเข้าอุทยานฯ ตรงกม.ที่ 109 เลี้ยวขวาไปอีก 1.5 กม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 700 กิโล
– ไปรถประจำทาง (ความสะดวก 4/5)
มีรถทัวร์ บขส.ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ไปสุราษฎร์ธานีทุกวัน (โทร.02-435-1199) เข้าไปเช็ครอบได้ที่ http://61.19.247.102/~transport/home_start.php# จากนั้นขึ้นรถสายสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต วิ่งระหว่างเส้นทางหลวงหมายเลข 401ผ่านปากทางเข้าอุทยานฯ สามารถเช่ารถแท็กซี่ต่อเข้าไปข้างใน (ค่าโดยสารคนละ 20 บาท)
– ไปรถไฟ (ความสะดวก 3/5)
มีรถไฟกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน (ลงที่สถานีรถไฟพุนพิน แล้วนั่งรถต่อเหมือนด้านบน) สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 1690
– เครื่องบิน (ความสะดวก 5/5)
มีหลายสายการบินให้บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีทุกวัน สอบถามรายละเอียด ได้ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 1566 www.thaiairways.com, นกแอร์ โทร.1318 www.nokair.com, ไทยแอร์เอเชีย โทร. 02-515-9999 www.airasia.com
2) ลุยเขื่อนรัชชประภา พอถึงตัวเมืองสุราษฎร์แล้วก็ลุยต่อกันเลย
– รถยนต์
จากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ วิ่งเส้น 401 ถึง อ.บ้านตาขุน ทางเข้าจะอยู่ระหว่าง กม.ที่ 57-58 ก่อนถึงโรงพยาบาลบ้านตาขุน เลี้ยวเข้าไปอีก 12 กม. ถึงเขื่อนรัชชประภา
– รถประจำทาง
จากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ จะมีรถประจำทางวิ่งผ่านหลายสาย ให้ลงที่ อ.บ้านตาขุน (ปากทางเข้าเขื่อน) จากนั้นนั่งรถรับจ้างต่อเข้าไปยังตัวเขื่อน หรือโบกรถนักท่องเที่ยวขออาศัยไปด้วยก็ประหยัดไปอีกแบบ
– รถตู้
เมื่อมาถึงตัวเมืองสุราษฎร์ฯแล้ว ก็ต่อรถตู้ ไปอุทยาน มีรถตู้ปรับอากาศ สุราษฎร์ธานี-อุทยานแห่งชาติเขาสก ออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 06.00 น.-17.00 น.
คิวรถตู้ที่เขาสก (สามแยกเข้าอุทยาน) โทร. 089-725-5517
คิวรถตู้ที่ตลาดเกษตร 2 โทร. 077-206-217
ค่าโดยสาร 120 บาท
หากไปส่งถึงสนามบินคิดราคาคนละ 200 บาท (ราคาอาจมีเปลี่ยนแปลงได้นะ)
ไม่ว่าคุณจะมาด้วยวิธีไหน พอถึงเขื่อนแล้วก็ต้องนั่งเรือต่อไปยังพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
ที่อยู่ในอ่างเก็บนํ้า อัตราค่าเรือเหมาต่อลำตั้งแต่ 1,800 บาทขึ้นไป (นั่งได้ 10-15 คน ไป10 คนก็ตกคนละ 180) เขาจะคิดราคาเดินทางว่าคุณจะไปแพไหนนั่นเอง