แหลมกระทิง เป็นอีกหนึ่งแหลมในจังหวัดภูเก็ต ที่งดงามไม่แพ้แหลมพรมเทพเลยทีเดียว แม้จะเดินทางลำบากซักหน่อยเนื่องจากต้องเดินทางผ่านโขดหินเป็นเวลากว่า 45 นาที แต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างมาก เพราะที่แหลมกระทิงแห่งนี้ คุณได้พบกับวิวที่มองเห็นทะเลอันดามันได้เกือบจะรอบด้าน แถมยังข้างทาง ที่เดินทางทั้งขาไปและกลับ ก็จะมีมุมให้ถ่ายภาพสวยๆกับวิวทะเลมากมาย แต่ต้องระมัดระวังสำหรับการเดินทางซักนิด เนื่องจากช่วงเย็นหรือพระอาทิตย์ตกลงไปแล้ว ที่นี่จะมืดมาก และเดินทางค่อนข้างลำบาก หากอยากอยู่ดูพระอาทิตย์ตกไม่แนะนำให้เดินทางมาคนเดียวครับ
นอกจากแหลมพรหมเทพ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกและทะเลที่ขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ต ยังมีอีกหนึ่งโลเคชั่นใหม่คือ แหลมกระทิง อยู่ใกล้กับอ่าวเสน หาดในหาน สวยจนต้องร้อง ว้าว! แหลมกระทิง การเดินทางเริ่มต้นจากบ้านกระทิงรีสอร์ท เดินเลียบกำแพงของรีสอร์ทลงไปถึงหาดในหาน เลาะชายหาดสลับโขดหินมาเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอกับลานโขดหินใหญ่ ให้เราแวะถ่ายรูป ตากลม และพักเหนื่อยกันสักพัก เซฟพลังก่อนเดินขึ้นเขา! ไม่กี่อึดใจ ประมาณ 30-45 นาที เราก็จะเดินจนถึงสุดปลายแหลม ที่มีวิวทุ่งหญ้าสีเขียวปนน้ำตาล และโขดหินตะปุ่มตะป่ำกระจัดกระจายไปทั่ว สามารถมองเห็นทะเลอันดามันได้กว้างไกล 360 องศา รวมไปถึงแหลมพรหมเทพฝั่งตรงข้ามด้วย ฟิลกู๊ดมากๆ
การเริ่มต้นเดินที่แหลมกระทิงถือว่าเป็นการเทรคเล็กๆเลยก็ได้ครบ
ก่อนจะเริ่มเดิน โปรดเตรียมน้ำเปล่าติดตัวไปด้วยอย่างก็ 1 ขวดเล็กนะครับ
และรองเท้าที่เอาไปควรจะเป็นรองเท้าที่พื้นรองเท้ายึดกับพื้นได้ดี
และช่วงเวลาเดินทางควรจะเป็นในวันที่แสงแดดแรงและฟ้าใสนะครับ
วันไหนฟ้ามัวเหมือนจะฝนไม่ควรมาอย่างเด็ดขาดเพราะเส้นทางจะค่อนข้างลื่นและอันตรายครับ
จุดเริ่มต้นจะอยู่ตรงบริเวณชายหาดด้านหน้าของบ้านกระทิงรีสอร์ทครับ
ชายหาดตรงนี้เป็นหาดสาธารณะ ซึ่งทางเดินในช่วงแรกต้องผ่านบริเวณที่เป็นโขดหินทั้งหมด
ย้ำก่อนอีกครั้งว่า ไม่มีป้าย ไม่มีทางเดินที่ชัดเจน ให้มองทางเดินดีๆครับมันจะมีทางที่ไปได้เรื่อยๆอยู่
เมื่อผ่านโขดหินมาได้ประมาณ 100 เมตร ทางจะกึ่งบังคับให้เราเดินเลี่ยงออกมาทางขวา
ไม่มีป้ายอีกตามเคย แต่เราจะรับความรู้สึกได้ว่าไม่สามารถเดินต่อไปได้แล้ว เพราะโขดหินมันจะดูอันตรายไป
ก้อนหินใหญ่ๆสี่เหลี่ยมตรงนี้ถือเป็นจุดที่เอาไว้สังเกตนะครับว่าเราต้องเลี่ยงขวาแล้ว
หลังจากเดินตัดออกมาทางขวา
ช่วงนี้จะเริ่มเส้นทางชัดเจนขึ้น จะเริ่มเห็นร่องรอยของคนที่เดินมาก่อนหน้านี้
ในส่วนของต้นหญ้าถ้าไม่มีคนเดินจะดูฉ่ำๆ แต่ถ้าเป็นทางคนเดินต้นไม้มันจะตายหมดแล้วครับ
เราก็ค่อยๆเดินไปนะครับ
อย่าแปลกใจถ้าทางเดินบางช่วงจะเป็นโขดหินล้วนๆ เพราะว่ายังสามารถไปได้อยู่
แต่อย่างที่บอกถ้าเป็นช่วงหลังฝนตกทางจะลื่นและเราจะพลัดตกลงไปได้ง่าย เพราะฉะนั้นห้ามเดินตอนที่อากาศไม่ดีครับ
อย่าลืมทาครีมกันแดดมาด้วยนะครับ
แดดแรงมาก เดินมาตัวเปล่าแบบผมกลับไปกว่าจะรู้ตัวอีกทีผิวเกรียมไปเลย
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 35-40 นาทีโดยประมาณ (สำหรับคนทั่วๆไป)
สภาพภูมิประเทศจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปครับ จะกลายเป็นเนินลาดขนาดใหญ่ ที่มีแต่ทุ่งหญ้าและโขดหินกระจัดกระจายไปทั่ว
นี่คือสัญญาณที่บอกว่าเราใกล้จะมาถึงที่แหลมกระทิงแล้ว
